วันอาทิตย์ที่ 27 มีนาคม พ.ศ. 2559

กะลัมพัก ตำนานที่หายสาบสูญไปจากโลกของเครื่องหอม นานกว่า 2500 ปี



         กะลัมพัก คือหนึ่งในตำนานเครื่องหอมชั้นสูงของโบราณ ถูกกล่าวถึงในคัมภีร์ยุคพุทธกาลบ่อยครั้ง  แต่ในปัจจุปัน ไม่มีใครกล่าวถึงกะลัมพักในแง่ของเครื่องหอมเลย ต่างกับกฤษณาและจันทร์หอม ที่มีบทบาทอยู่ในโลกของเครื่องหอมมาตลอด นับจากโบราณจนถึงทุกวันนี้
         กะลัมพักเป็นที่รู้จักของคนยุคนี้ในแง่สมุนไพร เป็นตัวยาชนิดหนึ่งของแพทย์แผนไทย กล่าวไว้ว่า กระลำพัก มีรสขม หอม มัน เย็น ใช้แก้ลมอังคมัลคานุสารี(เป็นลมที่พัดทั่วร่างกาย ตั้งแต่กระหม่อมถึงปลายเท้า) แก้ตรีสมุฏฐาน แก้โลหิตโทษ แก้พิษเสมหะ โลหิต และมูกเลือด บำรุงตับและปอด ทำให้มีกำลัง และว่ากระลำพักที่ได้จากต้นตาตุ่มทะเลนั้น มีรสร้อน เฝื่อน ขมเล็กน้อย มีสรรพคุณถ่ายหนอง แก้ลม(ที่มา:จากตำราพระโอสถพระนารายณ์ ) 
         ถึงแม้จะระบุว่าหอมแต่ก็ไม่มีเครื่องหอมตำหรับใดใช้กะลัมพักมาเป็นส่วนประกอบ ทำให้ความรู้ในเรื่องของกะลัมพัก ด้านความเป็นเครื่องหอม จึงไม่มีปรากฎอยู่เลยในปัจจุปัน
           เราไม่รู้ว่า " กะลัมพัก " เครื่องหอมที่โบราณกล่าวถึงไว้นั้น
           แท้จริงแล้วคือไม้อะไร?  
           วิธีสะกัดกลิ่นของกะลัมพัก ทำอย่างไร ? 
           และที่สำคัญ   กลิ่นที่แท้จริงของกะลัมพักเป็นอย่างไร ? 
          
            ลำพังกลิ่นของกะลัมพักที่ใด้จากการต้มในลักษณะของการต้มยานั้น ไม่น่าจะเป็นกลิ่นจริงของเขา เพราะกลิ่นที่ได้นี้เป็นกลิ่นของสาร Coumarin  ประเภทหนึ่ง ซึ่งเราจะพบได้บ่อยในพืชสมุนไพรอื่นๆ หลายชนิด ที่พอต้มไปนานๆแล้วจะมีกลิ่นหวานออกมา เพราะสาร Coumarin นี้จะเกิดขึ้นเมื่อได้รับความร้อนในระดับหนึ่ง       แต่เราไม่สนใจที่จะนำสารหอมที่เกิดขึ้นนี้ไปทำเครื่องหอม เพราะไม่สดวกและไม่คุ้มค่า 
         
              แล้วกลิ่นแท้ของกะลัมพักเป็นอย่างไร?  

                               คือโจทย์ที่สำคัญของเรา  

          
            เพราะเรามุ่งมั่นที่จะค้นหา "จตุคันธชาติ"  อันเป็นกลิ่นหอมในยุคพุทธกาล  
           และกะลัมพักก็คือส่วนประกอบสำคัญของกลิ่นจตุคันธชาต นี้ 
         
          ดังนั้นเราจึงต้องทุ่มเทสรรพกำลังอย่างมากมาย ทั้งเวลาและทรัพยากรเพื่อ ทำวิจัยหากลิ่น กะลัมพักออกมา
         โดยเริ่มจากความรู้ในปัจจุปัน ที่เกี่ยวข้องกับกะลัมพัก ว่ามีไม้อะไรบ้างที่เข้าข่ายความเป็นกะลัมพัก พบว่า ไม่ว่าจะเป็นกระบองเพชร, สลัดได, ตาตุ่มทะเล ล้วนจัดเป็นกะลัมพักได้ทั้งหมด และหากตีความตามคำจำกัดความของคัมภีร์โบราณที่อธิบายว่า กะลัมพักคือแก่นไม้ผุแล้วมีธาตุหอมเข้ามาแทรกอยู่ ก็จะขยายขอบเขตรวมไปถึง กฤษณา และขอนดอก(ทั้งจากพิกุลและตะแบกป่า) ด้วย 
         ข้อที่ต้องพิจารณาต่อไปคือ ใช้วิธีใดสะกัดกลิ่นของไม้ข้างต้น Stream Distillation, Solvent Extract ..ฯ  
         เมื่อได้ผลจากสองขั้นตอนแรกมาแล้วก็ต้องนำมาทดสอบคุณสมบัติทางด้าน perfumary ซ้ำไปซ้ำมา ใช้เวลาเกือบสองปี
         จนในที่สุด เราจึงได้ค้นพบ  "กะลัมพัก" อันมีคุณสมบัติต้องตรงตามคัมภีร์โบราณ...ทุกประการ


 4 ชม. ผ่านไป เธอว์จึงค่อยๆ ปรากฎโฉมออกมาให้เชยชม 1 cc  เธอว์ชื่อ "กะลัมพัก" เป็นเครื่องหอมชั้นสูงในตำนาน   ที่หายไปจากวงการเครื่องหอมของเรานานแล้ว  นานเสียจนไม่มีใครจำกลิ่นเธอว์ได้ จำได้แต่ชื่อเท่านั้น  เราได้   R&D  ปลุกชีพนางให้กลับมามีชีวิตโลดแล่น  อวดโฉมกลิ่นหอมของเธอว์ ให้โลกได้รับรู้        นางเป็นส่วนผสมของ " จตุคันธชาติ "  กลิ่นพุทธกาลของเรา  ทั้งน้ำอบและน้ำปรุง อันจะออกวางตลาดช่วง  สงกรานต์  '59 นี้นะจ๊ะ...
  
            ในโลกของเครื่องหอม "กฤษณา"  จะมีบทบาทเช่นนางเอกที่มีอำนาจสูงส่งประดุจนางพญาแห่งเครื่องหอม อานุภาพของเธอจะดูดซับเอาความหอมจากสิ่งอื่นมารวมไว้ในตัว แล้วจึงเปล่งรัศมีความหอม ที่แสดงออกถึงตัวตนของเธอออกมาอย่างเพลิดเเพร้วอลังการณ์หวานพิสุทธิ์     อานุภาพแห่งกลิ่นของเธอนี้ จะครอบคลุมตั้งแต่ ต้น Top note มาจนถึงช่วงแรกของ Base note
           ส่วน " กะลัมพัก "  มีบทบาทแตกต่างจากกฤษณามาก กลิ่นตรงๆของเขาจะไม่หวานชัดเจน ออกไปทางเข้ม มันๆคล้ายรำข้าวมีโทนของ cork ผสมอยู่ด้วย ทั้งยังแฝงความสดเขียวใว้อย่างแนบเนียน  บุคลิกของกลิ่น จะคล้ายสุภาพบุรุษที่พร้อมจะเป็นโครงสร้างหลักให้กับกลิ่นหวานอื่นๆยึดเกาะและช่วยขับดันส่งเสริมให้กลิ่นหวานเหล่านั้นเบ่งบานขยายความหอมหวานออกไป นอกจากจะขับเน้นกลิ่นดอกไม้ให้หวานขึ้นแล้วยังช่วยให้สดเขียวขึ้น อย่างเห็นได้ชัด 
           ในช่วงของ Top และ Middle ตัวตนเขาจะไม่ปรากฎให้เห็นนัก กระทั่งผ่านเข้าสู่ย่าน Base เขาจึงค่อยๆเผยตัวตนออกมาอย่าง สุภาพ นุ่มนวล ในโทนของไม้เนื้อหอม แผ่วจางอ่อนๆ ละมุนนุ่มลึก โยงเข้า ไปได้ถึงจิตวิญญานอันลึกล้ำทีเดียว  กลิ่นของเขาจะ suspension ทอดยาว แล้วจึงค่อยลดระดับลงไปเรื่อยๆ  กระทั่งจางหายไปอย่างแผ่วเบา อาจจะใช้เวลา 3 - 4 ชม. 
           กลิ่นกะลัมพัก ช่วยเราให้เข้าใจถึง คำว่า " เครื่องหอมชั้นสูง " ได้เป็นอย่างดี เพราะเครื่องหอมเกรดสูงและเกรดต่ำ จะต่างกันอย่างชัดเจนที่ท้ายกลิ่น  สัมผัสแรกๆของเครื่องหอมจะแยกได้ยาก ว่าเป็นเครื่องหอมเกรดใด แต่พอเวลาผ่านไป ความแตกต่างของระดับเครื่องหอมจะปรากฎชัดขึ้นๆ จนท้ายสุดช่วงของ base note แม้จมูกที่ไม่เคยได้รับการฝึกก็ยังสามารถแยกแยะระดับของเครื่องหอมได้  เครื่องหอมเกรดต่ำ กลิ่นท้ายๆจะกระด้าง, หยาบ, คลื่นเหียน, หลอน ฯ แสดงออกถึงความไร้ค่าและความเป็นสารเคมีออกมาให้เห็นอย่างเปิดเผย  
           ตรงข้ามกับเครื่องหอมชั้นสูง ที่พอเวลายิ่งผ่านไป ก็จะยิ่งเปร่งรัศมีของความมีชาติตระกูลสูงส่งออกมาให้เราได้เห็น ชัดขึ้นๆ  
           ดังเช่น  " กะลัมพัก "  นี้เอง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น